“ปวดท้องประจำเดือนบ่อยๆ” อาจไม่ใช่เรื่องเล็กอย่างที่คิด

สาวๆหลายคนคงมีปัญหากันบ่อยๆเกี่ยวกับการปวดท้องประจำเดือน บางคนปวดน้อย บางคนปวดมาก บางคนปวดแค่บางเดือน แต่บางคนก็ปวดทุกเดือน ซึ่งสาวๆส่วนใหญ่ก็จะมองว่ามันคือเรื่องปกติของผู้หญิงที่จะต้องเจอกับการปวดท้องประจำเดือน แต่รู้หรือไม่ว่า สาวๆที่ปวดท้องประจำเดือนบ่อยๆหรือปวดแบบรุนแรง อาจจะไม่ใช่เรื่องเล็กๆก็ได้

คุณ Nillaya Treeworawat เป็นหนึ่งในสาวๆที่มีอาการปวดท้องประจำเดือนอย่างรุนแรง เธอมองว่ามันคงเป็นเรื่องปกติ จนกระทั่งวันหนึ่งเธอมีอาการปวดท้องที่รุนแรง จนไปตรวจพบว่าเธอเป็นเนื้องอกที่ปีกมดลูก ต้องผ่าตัด โดยเธอให้รายละเอียดว่า

"เจตนาภาพนี้คืออยากให้ความรู้กับผู้หญิงทุกๆคนนะคะ ตั้งแต่วัยรุ่นขึ้นไปเลย #โดยเฉพาะคนที่ชอบปวดประจำเดือน เมื่อวานนี้เข้ารับการผ่าตัดด่วนเพราะจู่ๆเกิดปวดท้องแบบเสียดๆ แปล้บๆ หน่วง เหมือนมีเข็มทิ่มเยอะๆในท้อง เหมือนมดลูกจะหลุด เดินตัวงอเพราะเจ็บบริเวณท้องน้อยมากๆ ตอนแรกกะจะไม่ไป แต่รอบนี้เจ็บแม้กระทั่งขยับตัว (แต่ก็ยังแอบคิดว่าเป็นแค่ปวดท้องธรรมดา ไม่ก็โรคกระเพาะ) สุดท้ายก็รีบไปโรงพยาบาลแต่ตอนนั้นคิดแค่ว่าคงได้ยาธาตุน้ำขาวกลับบ้านชัวร์ เพราะไม่เคยมีอาการใดๆก่อนหน้าเลย ปกติดีทุกอย่างยกเว้นปวดท้องเม็น 555 ถึงรพแรกประมาน5ทุ่ม ก็ตรวจปัสสาวะ และอัลตราซาวและหมอพบว่ามีของเหลวคั่งในช่องท้องและมีเนื้องอกประมาณ6-7เซ็นที่บริเวณปีกมดลูกด้านซ้าย ต้องผ่าตัดเดี๋ยวนี้ ตอนนั้นช็อคและไม่เชื่อคิดว่าตรวจผิดป่าว แค่ปวดท้องเองนะแถมจะขอกลับบ้านก่อนก็ไม่ยอม บอกว่าต้องผ่าตัดเดี๋ยวนี้ อาจจะติดเชื้อจากของเหลวที่คั่งในท้อง แต่เพราะว่าไม่มีประวัติที่โรงพยาบาลแรกและไม่ได้เตรียมใจว่าต้องผ่าตัด เลยทำเรื่องขอส่งตัวย้ายมารพ พญาไท3แทนเพราะรักษาที่นี่ตลอด …ตอนนั้นตีสามละ เพื่อความชัวร์ เลยตัดสินใจ ตรวจใหม่หมดอีกรอบ หมอที่เข้าเวรตอนนั้นได้ข้อสรุปเช่นเดียวกันว่าที่ปวดท้องเพราะมีของเหลวคั่ง และของเหลวนั้นคือ เลือดประมาณ300ซีซี จากซิสแตก (หมอบอกว่ามดลูกกำลังลอยในเลือด >.<) และแจคพอตแตกอีกเมื่อหมอพบว่ามีก้อนเนื้อขนาด6เซ็นจริงที่บริเวณปีกมดลูกข้างซ้าย หากพบช้ากว่านี้เนื้ออาจกลายเป็นเนื้อร้ายได้ ช็อคถึงขีดสุดกว่าเดิมเมื่อพบว่าต้องผ่าตัดให้เร็วที่สุดก่อนจะช็อคและติดเชื้อในช่องท้องเพราะเลือดที่คั่ง…ที่นี้เมื่อต้องผ่า หมอบอกว่าแผลที่ผ่าแบบไม่ส่องกล้องจะใหญ่และอาจจะต้องตัดปีกมดลูกทิ้งเลยข้างนึงนะ แต่เรายังเด็กอยู่อยากให้ผ่าแบบส่องกล้องดีกว่า จะมีแค่แผลเล็กๆสามแผลและอาจจะไม่ต้องตัดปีกมดลูกข้างนึงทิ้ง ค่อยๆใช้ไฟจี้ไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่ภาวะของคนไข้ด้วยว่าร่างการรอไหวมั้ย ที่จะรอผ่ากับหมอใหญ่พรุ่งนี้ 8 โมงเช้า สุดท้ายตกลงกันว่า ถ้าหลังจากนี้เราเกิดมีภาวะอย่างอื่นแทรกซ้อน ทนปวดไม่ไหว หรือความดันตก จะต้องผ่าตัดทันทีไม่รอหมอใหญ่นะ และเราก็ผ่านคืนนั้นมาได้อย่างหลอนๆ อึดพอที่จะรอถึงเช้าได้ (พี่ยังสาวพี่ไม่อยากมีลายแทงสมบัติบนหน้าท้อง555) #ตอนนี้ได้รับการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว ปลอดภัยดีนะคะ และคุณหมอเก่งจึงสามารถรักษาปีกมดลูกด้านซ้ายไว้ให้ได้ในสภาพที่สมบูรณ์# ปกติเรามักจะปวดประจำเดือนโดยเฉพาะวันแรกๆ จะปวดมาก และ ประจำเดือนมาไม่ปกติ (บางทีปวดจนต้องนอนดิ้นๆๆๆๆให้เหนื่อยแล้วหลับไปเอง บางทีเพื่อนก็ต้องหิ้วปีกไปห้องพยาบาล) เลยอยากให้ผู้หญิงหมั่นสังเกตตัวเองดีๆนะคะ เพราะอาจไม่โชคดีแบบนี้ทุกคน#คุณหมอบอกว่าไม่มีสาเหตุของการเกิดก้อนเนื้อและซิส ถ้ามีมันจะมีโอกาสแตกได้ทุกเวลา แต่ว่าร่างกายแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนมีถุงน้ำเยอะมากช่วงมีรอบเดือนแล้วก็หายไปเอง บางคนมีซีสแต่มันก็แค่มีแต่ไม่ได้โตขึ้น ก็ไม่มีอะไรให้ห่วงมาก หรือบางคนกินยาก็หายไปเอง ทางที่ดีที่สุดก็ไปตรวจกันนะคะ อย่าไปกลัว อย่าไปอายหมอ อย่าปล่อยไว้จนซิสแตก หรือก้อนเนื้อโตขนาดนี้ เพราะมันทรมานและอันตรายมากจริงๆค่ะ อย่ามัวแต่อายกันนะคะเพราะการผ่าตัดมันไม่สนุกเลยจริงๆค่ะ ปล.1ขอบคุณภาพและความรู้ดีๆจากคุณหมอ นพ.ชาญชัย เลาหประสิทธิพร โรงพยาบาลพญาไท3 (เราผ่ากับอาจารย์หมอคนนี้) ปล.2 ไม่ต้องกลัวนะคะ เพราะร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนช่วงรอบเดือนจะมีถุงน้ำเต็มไปหมด แต่ถุงน้ำก็หายไปเอง บางคนมีซีส แต่ไม่โตขึ้นก็ไม่ต้องเอาออกก็ได้ บางคนมีเนื้องอกกินยาก็ขนาดเล็กลง หรือบางคนตรวจหลายทีก็เท่าเดิม คือภาวะพวกนี้ร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกันจริงๆ แต่ใครที่ชอบปวดท้องไปตรวจกับคุณหมอดีที่สุดค่ะ ตรวจแบบส่องกล้องจะเห็นชัดสุด ทุกซอกทุกมุม เผื่อมีอะไรจะได้ตัดออกทันก่อนลามเป็นเนื้อร้ายนะคะ …เป็นผู้หญิงลำบากเรื่องนี้สุดแล้ว 555555 ปล.3 หลังผ่าหมอบอกอาการปวดท้องจะหายไป หรือ ปวดน้อยลงมากๆจ้า ขอบคุณคนมาเฝ้าด้วยนะคะ Chayapat Poolpatarachewin รับแอ้ดเฟสไม่ได้แล้วคร้า ฟอลหรือติดตามในเฟสแทนน้า หรือไอจีก็ได้จ้า #ninnillaya"

น่ากลัวจริงๆค่ะ เป็นอุทาหรณ์ให้กับสาวๆที่ชอบมองข้ามการปวดประจำเดือนบ่อยๆ มันอาจจะไม่ใช่เรื่องปกติของร่างกายก็เป็นได้ สิ่งที่ดีที่สุดคือการตรวจร่างกายนั่นเองค่ะ